ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินคำว่ากัญชงกันอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากปัจจุบัน กัญชง ได้ถูกรัฐบาลประกาศปลดล็อคให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และเศรษฐกิจได้แล้ว แต่หลายๆ คนที่ไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยสัมผัสมาก่อนคงจะมีข้อสงสัยว่ากัญชงมันมีสรรพคุณ และประโยชน์อะไร และมีความแตกต่างกับกัญชาอย่างไร
เนื่องจากเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดเดียวกัน อยู่ในวงศ์เดียวกัน แล้วมันจะแตกต่างกันอย่างไร กัญชง เป็นพืชที่ถูกจัดอยู่ในวงศ์ Cannabaneae มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียกลาง และได้มีการแพร่กระจายออกไปสู่เอเชียตะวันออก อินเดีย และยุโรป เป็นพืชที่ให้ใยทางธรรมชาติสูง มีความทนทาน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ซึ่งได้มีทันทึกประวัติศาสตร์ได้บอกเอาไว้ถึงการใช้ประโยชน์ของกัญชงมากกว่ากัญชา
กัญชงทำอะไรได้บ้าง
กัญชงเป็นพืชที่มีสรรพคุณหลากหลาย อย่างเช่น ชวยให้มีความรู้สึกผ่อนคลาย มีความสดชื่น ช่วยให้สามารถนอนหลับได้สบายมากขึ้น และยังสามารถช่วยรักษาอาการวิงเวียนศีรษะ แก้ปวดหัว หรือไมเกรนได้ โดยที่ทุกส่วนของกัญชงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ ช่อ ดอก ใบ เมล็ด เปลือก ลำต้น กิ่ง และราก ทุกส่วนสามารถนำมาดัดแปลง และแปรรูปการณ์ใช้งานได้หลายผลิตภัณฑ์ มีให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น
- ช่อดอก : โดยส่วนใหญ่ช่อดอกมักจะถูกนิยมนำเอามาสกัดเป็นสาร Phytocannabinoids ที่มีคุณสมบัติทางยาโดยตรง เช่น CBD โดยที่จะสามารถทำการบริโภคได้เลยโดยตรง หรือจะนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม และอาหาร ก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
- ใบ : สามารถนำมาสกัดเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการปรุงอาหาร และเครื่องดื่ม รวมไปถึงสามารถนำมาใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพ ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง แผ่นไม้อัด ไฟเบอร์กลาส เป็นส่วนประกอบที่นำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
- เปลือก ลำต้น : มักจะนำมาดัดแปลง และแปรรูปในการทำเป็นเส้นใย เป็นส่วนประกอบในการทำเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เชือก เป็นต้น
- น้ำมัน และสารสกัดจากเมล็ดกัญชง : ส่วนที่หลายคนมักจะได้ยิน และเข้าถึงการใช้งานที่บ่อยมากที่สุด โดยส่วนใหญ่มักจะนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหาร และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เนื่องจากเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงเป็นอย่างมาก
ประโยชน์ของกัญชง เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองกันต่อไป เพราะต้องบอกว่ากัญชงถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณ และประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะกับทางด้านการแพทย์ แต่ปัจจุบันก็ยังมีหลายคน หลายกลุ่มที่นำมาใช้ในทางที่ผิด เพราะยังไม่มีกำหนดขอบเขตในการดูแลที่เหมาะสม ถ้าหากใช้งานถูกประเภท ไม่ว่าจะทางการแพทย์ หรือทางสันทนาการ ก็จะทำให้ได้ประโยชน์เต็มที่ได้นั่นเอง
